โรงพยาบาลในโอซากากับการสู้ “ศึกโควิด”

โรงพยาบาลหลายแห่งในจังหวัดโอซากาของญี่ปุ่นกำลังต่อสู้อย่างหนัก เพื่อรับมือ “การโจมตีจากโควิด-19” แต่เตียงผู้ป่วยหนักกำลังจะเต็ม และบุคลากรการแพทย์กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า “ระบบสาธารณสุขกำลังล่มสลาย”

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองโอซากา ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 24 พ.ค.ว่านพ.ยูจิ โทดะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยคินได หนึ่งในมหาวิทยาลัยใหญ่ที่สุดของภูมิภาคคันไซ ให้สัมภาษณ์พิเศษกับสำนักข่าวรอยเตอร์ ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในญี่ปุ่น โดยเฉพาะที่จังหวัดโอซากา ซึ่งมีผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้นเป็นอันดับต้นของประเทศ ว่าระบบสาธารณสุขของญี่ปุ่นตอนนี้ “ตึงตัวอย่างมาก” จนเรียกได้แล้วว่า “กำลังจะล่มสลาย” ด้วยปัจจัยทั้งการที่ในญี่ปุ่นเต็มไปด้วยเชื้อไวรัสโคโรนากลายพันธุ์บี117 จากสหราชอาณาจักร และการที่ทุกฝ่าย “ลดการตั้งการ์ด”
 
ตอนนี้ญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดระลอกที่สี่ของโรคโควิด-19 และจังหวัดโอซากาได้รับผลกระทบอย่างหนักในระดับที่บุคลากรการแพทย์หลายคนเรียกว่า “พายุโควิด”  จากสถิติในรอบ 7 วันจนถึงวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา มีผู้ป่วยยืนยันสะสมตลอดช่วงเวลานั้น 3,849 คน เพิ่มขึ้นมากกว่า 5 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับสถิติแบบเดียวกันในรอบสามเดือนก่อนหน้านั้น
 
ขณะที่สถิติในรอบ 7 วันล่าสุดจนถึงวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาเช่นกัน อัตราการครองเตียงของผู้ป่วยหนักจากโรคโควิด-19 ในจังหวัดโอซากา อยู่ที่ 96% ด้านนพ.โทชิอากิ มินามิ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลการแพทย์และเภสัชกรรมโอซากา ( โอเอ็มพียูเอช ) กล่าวว่า เชื้อไวรัสกลายพันธุ์จากสหราชอาณาจักรสามารถทำให้กลุ่มคนหนุ่มสาวล้มป่วยได้ง่ายและเร็วขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นเมื่ออาการทรุดหนัก การฟื้นตัวจะเป็นไปอย่างลำบาก
 
ปัจจุบันโอเอ็มพียูเอชมีเตียงคนไข้ 832 เตียง อยู่ในความดูแลของแพทย์ประมาณ 500 คน และพยาบาลประมาณ 950 คน โดยผู้ป่วยโรคโควิด-19 ครองเตียงไอซียูอยู่ 10 จาก 16 เตียง และผู้ป่วยหนักจากโรคโควิด-19 ประมาณ 140 คน เสียชีวิตไปแล้ว 12 รายที่โรงพยาบาลแห่งนี้
 
อนึ่ง สมาคมแพทย์โตเกียว ซึ่งเป็นองค์กรการรวมตัวของแพทย์ขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ยื่นหนังสือเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซึงะ เมื่อกลางเดือนนี้ เรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่น ยกเลิกการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิก ซึ่งกรุงโตเกียวจะเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 23 ก.ค. จนถึงวันที่ 8 ส.ค.นี้ เนื่องจากระบบสาธารณสุขของญี่ปุ่น โดยเฉพาะที่กรุงโตเกียว จะรับมือไม่ไหวแล้ว