คณะผู้บริหารฮ่องกงประกาศการปิดสำนักงานทางการทูตประจำกรุงไทเป “อย่างไม่มีเหตุผล” และกล่าวถึงการยึดทรัพย์นายจิมมี ไหล่ มหาเศรษฐีด้านสื่อสารมวลชนชื่อดัง “เพื่อความมั่นคงของชาติ”
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 18 พ.ค.ว่าสำนักงานเลขาธิการคณะผู้บริหารฮ่องกงออกแถลงการณ์ เมื่อวันอังคาร เรื่องการปิดสำนักงานเศรษฐกิจ การค้าและวัฒนธรรมฮ่องกง ประจำกรุงไทเป เมืองหลวงของไต้หวัน “ทันที” โดยระบุเหตุผลเพียงว่า “ไม่เกี่ยวข้องกับการที่ไต้หวันพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้นในชุมชน”
ต่อมากระทรวงการต่างประเทศของไต้หวันเผยแพร่แถลงการณ์ว่า “ยอมรับและเคารพ” การตัดสินใจของฮ่องกง แต่ “ผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง” ที่อีกฝ่ายตัดสินใจดำเนินการเพียงฝ่ายเดียว และหมายความว่านับจากนี้เป็นต้นไป การดำเนินการช่วยเหลือชาวฮ่องกงในไต้หวันต้องดำเนินการผ่านฮอตไลน์ ที่รัฐบาลทั้งสองฝ่ายยังคงใช้ร่วมกัน และผ่านช่องทางออนไลน์ คือเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของคณะผู้บริหารฮ่องกง และกระทรวงการต่างประเทศไต้หวัน
ในเวลาเดียวกัน นางแคร์รี แลม หัวหน้าคณะผู้บริหารฮ่องกง กล่าวถึงการยึดทรัพย์สินของนายจิมมี ไหล่ มหาเศรษฐีด้านการสื่อสารมวลชน วัย 73 ปี ซึ่งอยู่ในเรือนจำทั้งเพื่อรับโทษ และรอการไต่สวนหลายข้อหาตามกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ จนบริษัทเน็กซ์ ดิจิทัล ของไหล่ ต้องขอระงับการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ว่าไหล่เป็นจำเลยใน “คดีอาญาซึ่งมีอัตราโทษสูง” การดำเนินการของคณะผู้บริหารฮ่องกงในเรื่องดังกล่าว สะท้อน “ความจริงจังและการให้ความสำคัญ” ต่อสถานการณ์ด้านความมั่นคงภายในเขตบริหารพิเศษแห่งนี้ ไม่เพียงแต่เพื่อชาวฮ่องกง และยังรวมไปถึงชาวจีนอีก 1,400 ล้านคนด้วย